Facebook Fanpage


Miracle Super Fat Burning

 ลดความอ้วน สลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดที่กวนใจ
พร้อมเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันทั่วเรือนร่าง
กำจัดเซลลูไลท์ที่สะสมใต้ผิวหนัง
พร้อมทั้งยังยกกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อย

ราคาครั้งละ 5,000 บาท

(จากปกติ 8,000 บาท)

คอร์ส 4 ครั้ง ราคา 18,000 บาท

รวม 3 นวัตกรรมลดความอ้วนยอดฮิตมาไว้ในโปรแกรมเดียว

เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นเเบบ คูณ 3

ในเเต่ละครั้งที่รับบริการประกอบด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้

1) ฉีดมัลติวิตามินเร่งการเผาผลาญไขมันสะสม 1 โดส

(ให้วิตามินเข้าทางเส้นเลือด)

+

2) เมโสแฟตสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด 2 โดส

(เลือกบริเวณได้ เช่น พวงแก้ม, หน้าท้อง, ต้นขา)

+

 3) นวดยกกระชับผิวด้วยเครื่อง 4-Polar RF  1 ครั้ง

(รับบริการบริเวณที่ฉีดเมโสแฟต)

 

1) ฉีดมัลติวิตามินสูตรพิเศษ : ช่วยเร่งรัดการเผาผลาญไขมันเป็นพลังงาน ช่วยสลายไขมันสะสมทุกบริเวณทั่วทั้งร่างกาย

2) เมโสแฟต นวัตกรรมเมโสเทอราพียอดฮิต : ช่วยสลายไขมันสะสมตามบริเวณต่างๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็น พวงแก้ม เหนียงคอ หน้าท้อง ต้นเเขน ต้นขา เอว สะโพก ฯลฯ

3) 4-Polar Radio Frequency : ช่วยสลายไขมันส่วนเกินให้แตกตัวนิ่มลง เป็นโมเลกุลเล็กๆ ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย ช่วยลดเซลลูไลท์ กระตุ้นคอลลาเจนยกกระชับบริเวณผิวหนังที่หย่อนคล้อย ด้วยคลื่นไฟฟ้าอ่อน เพื่อผิวกระชับขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า ต้นเเขน หน้าท้อง ต้นขา

——————————————————

ต้องการสอบถามข้อมูล/นัดคิวพบแพทย์

มีให้บริการทั้งทาง Line เเละ FB กดที่ไอคอนได้เลยค่ะ

  Line icon   FB icon

 

เปิดให้บริการทุกวันเวลา 11:00 น. – 20:00 น.
โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

– สาขาสุขุมวิท 42/1 : 096-895-4232 , 02-712-2127

– สาขา BTS วงเวียนใหญ่ : 061-645-1646 , 02-862-1999

– สาขาเมืองทองธานี : 096-946-9665 , 02-981-7888

แผนที่คลินิกคลิ๊ก !!

 

 

การฉีดมัลติวิตามินสูตรพิเศษ

ความอ้วน ไขมันสะสม บั่นทอนความงาม และความมั่นใจ วิทยาการใหม่ ด้วยกระบวนการฉีดเข้าทางหลอดเลือด จะเห็นผลได้ชัดเจนกว่า เพราะฉีดมัลติวิตามิน และสารอาหารสามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีทั่วร่างกาย วิตามินรูปแบบของเหลวมีโมเลกุลเล็กพิเศษ และถูกดูดซึมนำไปใช้งานได้ง่าย ให้ประโยชน์ในการกระชับรูปร่างให้ได้สัดส่วน ทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ทำงานร่วมกับส่วนของตัวยาจากสารสกัดจากธรรมชาติที่ร่างกายคุ้นเคยดี Chromium, Amino acid, Thiamin, Riboflavin, Niacin, Vitamin B1, Vitamin B6 , Vitamin B12, Pantothenic Acid, L-Carnitine

กลไกของตัวยาจะช่วยทำให้การเผาผลาญไขมันทำได้รวดเร็ว ลดการสะสมของไขมันเก่า ทำให้รูปร่างกระชับได้สัดส่วนมากขึ้น ไม่ว่าจะมีรูปร่างอ้วนแบบใดก็มั่นใจกับรูปร่างใหม่ที่ต้องการได้ พร้อมสารอาหารช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยาก

ทั้งนี้ ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป เนื่องจากร่างกายจะยิ่งผลิตฮอร์โมนที่จำเป้นต่อการปรับสมดุลร่างกายได้น้อยลงเมื่อมีอายุมากขึ้น และมีการออกกำลังกายน้อยลง พันธุกรรม สภาพโครงสร้างร่างกาย ฮอร์โมน ระยะเวลาการสะสมไขมัน ชนิดของไขมัน ปัญหาไขมันสะสมเดิมที่ต้องการแก้ไขของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินสภาพปัญหาโดยไม่คิดค่าบริการในการรับคำปรึกษาก่อนตัดสินใจรับบริการ

               วิธีการให้สารอาหาร และมัลติวิตามินเข้าทางเส้นเลือด

    • ผู้รับบริการต้องดื่มน้ำให้มากเข้าไว้ เพราะน้ำจะช่วยให้เลือดใสไม่หนืดเกินไป และที่สำคัญคือเส้นเลือดจะพองสวยด้วยน้ำเลือดดันอยู่เต็ม การหาเส้นเลือดจะทำได้ง่าย ส่วนน้ำที่ว่าต้องเป็นน้ำเปล่าจะดีสุด
    • ให้ผู้ป่วยกำมือข้างที่จะฉีดยาให้แน่น ใช้สายรัดห้ามเลือดเหนือบริเวณที่จะฉีด 2- 3 นิ้ว จะทำให้ได้เส้นเลือดนูนสวยเห็นชัด
    • ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดด้วยยาฆ่าเชื้อให้ปราศจากเชื้อโรค
    • ไล่อากาศจากกระบอกฉีดมัลติวิตามินจนหมด
    • นำเข็มเข้าหลอดเลือดดำ ปลดสายรัดแขนห้ามเลือด และผลักมัลติวิตามินช้าๆ จนหมด
    • ใช้สำลีชุบน้ำเกลือป้องกันเชื้อโรค กดบนตำแหน่งที่ฉีด ถอนเข็มออก กดสำลีไว้สักครู่ หรือใช้พลาสเตอร์ปิดทับสำลีไว้

ปัจจุบันยังไม่พบว่ามีข้อแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย เพราะล้วนเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ไม่ใช่ยา หรือสารแปลกปลอม แต่ต้องฉีดโดยแพทย์ หรือพยาบาลที่มีประสบการณ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยไม่ควรฉีดในรายที่มีปัญหาโรคลมชัก เบาหวาน โรคเลือด สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร

สามารถฉีดได้สัปดาห์ละครั้ง ติดต่อกันประมาณ 4-8 สัปดาห์ แล้วเว้นระยะห่างออกไปตามความเหมาะสม โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่รับบริการ และจะเห็ผลชัดเจนหากรับบริการรักษาอย่างต่อเนื่อง

 

เมโสแฟต

หนึ่งในเมโสเธอราพีที่ฮอตสุดๆ คงต้องยกให้ เมโสแฟต (Meso fat) เพราะวิธีนี้ช่วยเร่งการเผาผลาญสลายไขมัน ลดปัญหาเซลลูไลต์ส่วนเกินบนใบหน้าและจุดต่างๆ ของร่างกายได้เยี่ยมยอด เช่น คาง แก้ม ปีกจมูก ท้องแขน พุง สะโพก ต้นขาและน่อง โดยการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลือง และวิตามินหลายชนิดที่มีความปลอดภัยกับร่างกาย ตัวยาจะช่วยทำลายชั้นไขมันสะสมให้แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ และไม่สามารถเกาะกลุ่มเป็นก้อนไขมันได้อีก ร่างกายก็จะขับโมเลกุลไขมันออกสู่ระบบกำจัดของเสียทางน้ำเหลือง แล้วจึงถูกกรองปล่อยออกมาทางปัสสาวะ และทางอุจจาระ เมื่อไขมันหายไปตัวยาจะช่วยในการยกกระชับผิวหนังบริเวณที่ฉีดให้ตึงกระชับเรียบเนียนไม่หย่อนคล้อย หรือเหี่ยวลงแต่อย่างใด

               เมโสเธอราพี (Mesotherapy) หรือ เมโสแฟต (Meso fat) เป็นวิธีการใช้เข็มส่งยาผ่านผิวหนังลงไปทำลายผนังเซลล์ไขมัน และทำให้ไขมันกลายสภาพเป็นของเหลวด้วยการหลอมละลายเซลล์ไขมัน เมื่อเซลล์ไขมันกลายเป็นของเหลว ก็จะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายในรูปของของเสียได้อย่างง่ายดาย ตัวยา เมโสแฟต (Meso fat) ช่วย ละลายไขมัน ที่เกาะตัวกันเป็นก้อนใน ชั้นไขมัน ใต้ผิวหนัง ตัวยาที่ใช้ฉีดหรือส่งเข้าไปก็สกัดมาจากวิตามินธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติย่อยสลายไขมันส่วนเกิน ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวได้ง่าย ร่างกายจึงเผาผลาญ และขับออกไปได้โดยง่าย เมื่อคนไข้ฉีดยา เมโสแฟต (Meso fat) ละลายไขมันไปได้ระยะหนึ่ง พบว่าส่วนใหญ่ขนาดของไขมันส่วนเกินลดลงไป 2-4 นิ้ว โดยประมาณ ซึ่งเป็นวิธีการที่เห็นผลลัพธ์ได้ไว แถมยังกำจัดได้ทั้งเซลลูไลท์และ ไขมันส่วนเกินไปพร้อมๆ กันในคราวเดียว นอกจากนี้วิธีนี้ยังปลอดภัย ผลข้างเคียงถ้าจะมีบ้างก็เป็นพวกรอยช้ำที่เกิดจากการฉีดยา ซึ่งรอยนี้จะค่อยๆ หายไปเองเหมือนรอยฟกช้ำดำเขียวทั่วไป

               การรักษาด้วยเทคนิค เมโสเธอราพี (Mesotherapy) หรือ เมโสแฟต (Meso fat) นี้มีผลดีต่อผู้เข้ารับการรักษาอย่างมาก เนื่องจากความปลอดภัยในการรักษา ผู้รับการรักษาสามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจน ไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่ต้องมีบาดแผล ไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นโรงพยาบาล สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังรับบริการทันที เมื่อไขมันสะสมเก่าถูกสลายจนหมดไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาได้อีก เพราะมันออกจากร่างกายไปแล้ว หากกังวลว่าร่างกายจะกลับมาใหญ่เท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาน้ำหนักตัวของไข้ไม่ให้ขึ้นจนมากเกินไป จนส่งผลกระทบกับร่างกายให้มีการสะสมใหม่ของไขมัน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการดูแลรักษารูปร่าง โครงสร้างร่างกายของตัวคนไข้เองเท่านั้น จึงควรรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม และควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

             เมโสเธอราพี (Mesotherapy) การฉีดสลายไขมันส่วนเกิน

               เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกิน  เมโสแฟต (Meso fat) เป็นวิธีหนึ่ง ด้วยการที่แพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดส่งยา ซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน โดยใช้กลุ่มยาหลายๆ ตัว เช่น Phosphatidyl choline, Deoxycholate, L-carnitine, Vitamin B complex, Amino acids, Taurine, Minerals, Sodium chloride, Fumaria officinalis, Aesculus hipocastannum, Pulsatilla, Barium carbonate, Disinfiltrant, Microcirculation biostimulant, Ascorbic Acid, Silicium Organic, Caffeina, Rutina, Tween 80, Flavonoside, Copper. ฯลฯ โดยปริมาณที่ฉีด ก็แล้วแต่บริเวณที่ต้องการ เช่น อาจจะใช้ 0.2-0.5 ซีซี ห่างกัน ทุก 1-2 ตร.ซม. โดยฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมัน ตั้งแต่ 0.1 มม. – 10 มม. โดยเทคนิค เมโสเธอราพี (Mesotherapy)  หรือ เมโสแฟต (Meso fat) นั่นเอง

               ซึ่งในปัจจุบันนี้ ได้มีการพัฒนาตัวยาฉีดสลายไขมัน  เมโสแฟต (Meso fat) สำหรับทำ เมโสเธอราพี (Mesotherapy) ให้สะดวก และทันสมัยยิ่งขึ้น ได้ผลมากขึ้น เร็วขึ้น ไม่มีอาการบวม ไม่เจ็บระหว่างรับบริการ และผลข้างเคียงเรื่องการฟกช้ำหลังฉีดน้อยลง ซึ่งจะมีเพียงคนไข้บางรายที่มีเส้นเลือดฝอยบริเวณที่รับบริการค่อนข้างเยอะ และจะจจางหายไปเองอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาในการรับริการน้อยลงทั้งนี้ไม่เกิน 30 นาทีต่อครั้งเท่านั้น หลังการรับบริการในเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง กลไกของการสลายไขมันด้วยการฉีด เมโสแฟต (Meso fat) แบบ เมโสเธอราพี (Mesotherapy) พบว่าตัวยาจะไปทำให้ผนังไขมัน (Fat cell wall) แตกตัวออก ทำให้ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนๆ สลายออกเป็นไขมันเหลว (Lipid Fat) โมเลกุลไขมันจะแตกตัวไปรวมกับน้ำระบบน้ำเหลืองในร่างกาย แล้วถูกขับออกทางปัสสาวะ และทางอุจจาระในที่สุด

               ตำแหน่งที่นิยมทำการสลายไขมันด้วยวิธี  เมโสแฟต (Meso fat) ได้แก่ ไขมันสะสมที่แก้ม เพื่อปรับหน้าให้เรียว , ไขมันส่วนเกินที่คาง เพื่อกระชับชั้นลำคอให้เรียบเนียน, ไขมันส่วนเกินที่ต้นแขน ต้นขา สะโพก พุง หน้าท้อง ไขมันที่เต้านม (Gynecomastia) และไขมันที่น่อง

               เมโสเธอราพี (Mesotherapy) เมโสแฟต (Meso fat) การฉีดสลายไขมันส่วนเกินนิยมฉีดลดไขมันที่ใดบ้าง

• ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก • ลดไขมันที่คาง(เหนียง) • ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา • ลดไขมันที่พุง หน้าท้อง • ลดไขมันที่จมูก(บาน) ทำให้เล็กลง • ลดไขมันที่หนังตาบนหย่อนคล้อย • ลดไขมันที่น่อง

               ข้อห้ามในการรับบริการ เมโสเธอราพี (Mesotherapy) เมโสแฟต (Meso fat) มีดังนี้

  • สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
  • คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
  • คนไข้ที่มีประวัติภาวะความดันโลหิตต่ำ
  • คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
  • คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน

               ข้อควรปฏิบัติหลังทำ เมโสเธอราพี (Mesotherapy) เมโสแฟต (Meso fat) มีดังนี้

• ควรดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลายด้วยการฉีด เมโสแฟต (Meso fat) จะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น

• ช่วงที่เว้นการฉีด เมโสแฟต (Meso fat) แนะนำให้ทำ RF เพื่อช่วยรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้มากขึ้น ลดการหย่อนคล้อยหลังฉีด เมโสแฟต (Meso fat)

• การรับบริการ เมโสแฟต (Meso fat) อาจจะพบรอยเขียวช้ำบ้างเล็กน้อยในบางรายที่มีเส้นเลือดฝอยบริเวณที่รับบริการค่อนข้างมาก นานประมาณ 1-3 วันแล้วจะจางหายไปเองตามธรรมชาติไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ดังนั้น ควรเลี่ยงการ การเข้าอบซาวน่า การนวด การดื่มอัลกอฮอล์ หรือการทำทรีทเม้นต์ใดๆ หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง

• หลังรับบริการ เมโสแฟต (Meso fat) ควรออกกำลังกายเบาๆ หลังทำ เช่น การเดินเร็ว โยคะ หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ และรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่

• เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก และไขมันส่วนเกิน มิให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการรับบริการ เมโสแฟต (Meso fat) จะไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมนิสัยการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนัก ให้มากขึ้น

• บริการ เมโสแฟต (Meso fat) จะสลายไขมันเก่าที่สะสม และขับออกไป เมื่อไขมันลดลงไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีด เมโสแฟต (Meso fat)ต่อ ไขมันที่สลายไปแล้วจะไม่กลับมา ยกเว้นแต่ว่าน้ำหนักตัวขึ้นเกิน 3 กิโลกรัม อาจทำให้ร่างกายสะสมไขมัน หรือสร้างชั้นไขมันขึ้นใหม่ได้

 

4-Polar Radio Frequency

4-Polar Radio Frequency เป็นการคัดสรรเทคโนโลยี ที่ทันสมัยเพื่อลดเซลลูไลท์โดยตรง ด้วยการผสานเทคโนโลยีหลากหลายไว้ในขั้นตอนเดียว โดยใช้หลักการรวมสุดยอดเทคโนโลยี Radio Frequency ทั้งแบบ 4-Polar Face , 4-Polar Body และ Magnito ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวในระบบคลื่นไฟฟ้า 4 ขั้ว เพื่อให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า ทำให้สามารถกระตุ้นเซลล์ได้ลึกถึง 2 ระดับชั้น คือ Dermis และ Subcutaneous โดยการฟื้นฟูสภาพผิวด้วย 4-Polar Radio Frequency โดยการส่งกระแสไฟฟ้าคลื่นความถี่วิทยุเข้าไปกระตุ้นเซลล์ ที่อุณหภูมิไม่สูง จึงรู้สึกสบายขึ้นในระหว่างทำ ทำงานโดยส่งพลังงานเข้าหลอมละลายไขมันภายใต้ชั้นผิวหนัง จากการที่เซลล์ไขมันยากต่อการทำลาย เพราะมีผนังเซลล์ปิดกั้นไม่ให้ไขมันถูกปลดปล่อยออกมา ทำให้มีการสร้าง และเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นดีขึ้น ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์เนื้อเยื้อ แต่ส่งผลโดยตรงต่อเซลล์ไขมัน เพื่อเข้าสู่ระบบหมุนเวียน และขับเป็นของเสียออกจากร่างกาย เพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวออกจากการเกาะตัวกัน หดตัวเล็กลงเป็นโมเลกุลเล็กๆ ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดออกได้โดยง่ายทางการขับถ่ายของเสียผ่านทางระบบน้ำเหลือง เพิ่มความกระชับ และเนียนเรียบของผิว ช่วยในการเผาผลาญไขมันบริเวณที่ทำ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า 4-Polar Radio Frequency สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

4-Polar Radio Frequency คือ วิธีการปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อนในรูปของคลื่นวิทยุ ในช่วงความถี่ 0.3 – 0.5 MHz (เมกะเฮริตซ์) ที่ปลอดภัย พลังงานจากกระแส ไฟในช่วงคลื่นความถี่วิทยุสามารถผ่านทะลุผิวชั้นบนเพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นลึก และประสานไปกับการนวดพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะทำให้เกิดการไหลเวียน กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนรูปของพลังงานจากภายใน ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 3° C- 5° C ซึ่งเป็นวิธีการที่ปลอดภัย เพราะอุณหภูมิของร่างกายจะถูกกระตุ้นให้สูงขึ้นไม่เกิน 42° C ทำให้ระบบโลหิตบริเวณที่ได้รับการรักษาดีขึ้น หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้เลือด และน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดี มีการขับของเสียในระบบน้ำเหลือง

การรักษาด้วยเทคนิคด้วยนวัตกรรมคลื่นไฟฟ้า 4-Polar RF Technology เป็นการรักษาเชิงถาวร เมื่อไขมันสะสมเก่าถูกสลายจนหมดไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาได้อีก เพราะมันออกจากร่างกายไปแล้ว หากกังวลว่าร่างกายจะกลับมาใหญ่เท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาน้ำหนักตัวของไข้ไม่ให้ขึ้นจนมากเกินไป จนส่งผลกระทบกับร่างกายให้มีการสะสมใหม่ของไขมัน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการดูแลรักษารูปร่าง โครงสร้างร่างกายของตัวคนไข้เองเท่านั้น จึงควรรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม และควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

             ผลดีของการทำ 4-Polar Radio Frequency

               4-Polar Radio Frequency การรับบริการ ลดความอ้วน ปรับรูปหน้า หน้าเรียว จะช่วยขจัดเซลลูไลท์ และไขมันที่สะสมอยู่ตามพวงแก้ม ใต้คาง รอบใบหน้า ลำคอ ต้นแขน ต้นขา สะโพก หน้าท้องๅและยังช่วยในการกระชับสัดส่วนอีกด้วย โดย RF จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ในผิวหนังทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับขึ้นมากจนส่งผลให้เกิดการยกตัวขึ้นทันทีหลังรับการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง ผลการรักษาโดยเฉลี่ยจะเห็นผลตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์หลังรับบริการ ส่วนใหญ่ขนาดเส้นรอบวงของไขมันส่วนเกินบริเวณที่รับบริการ เฉลี่ยแล้วจะมีการหดตัวยกกระชับเล็กลง 2-4 นิ้ว

              ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ต้องการทำ 4-Polar Radio Frequency คือ

1. ก่อนและหลังการมีประจำเดือนอย่างน้อย 3 วัน และในระหว่างการมีประจำเดือน ผู้ที่เพิ่งรับประทานอาหารมา อย่างน้อย 30 นาที

2. ให้ถอดอุปกรณ์ และเครื่องประดับที่เป็นโลหะก่อนทำทุกครั้งเพราะเป็นการรบกวนการส่งคลื่นได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เครื่องมือที่ทำให้หัวใจเต้นปกติ หรือ Pacemaker

3. ห้ามรับบริการสำหรับผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่องหรือช้า ผู้ที่เป็นลมชัก ผู้ที่เป็นโรคไต ผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด

4. หญิงมีครรภ์ และหลังคลอดบุตรไม่ถึง 6 เดือนไม่ควรรับบริการ

5. บริเวณที่จะทำการรักษามีการอักเสบ แผลถลอก หรือได้รับการผ่าตัดบริเวณที่จะรักษาไม่เกิน 6 เดือน

              ระยะเวลาในการรักษา

1. ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้ต้องการรักษา เช่น การรักษาเพื่อลดเซลลูไลท์ และกระชับสัดส่วน จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ควรทำประมาณ 3-4 ครั้งต่อเดือน

2. การรักษาเพื่อลดไขมันส่วนเกิน และกระชับสัดส่วน จะใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ควรทำประมาณ 8-10 ครั้งต่อเดือน

3. การดูแลผิวพรรณ และสัดส่วนให้กระชับหลังจบคอร์สอย่างต่อเนื่อง ควรทำเฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้งหรือบ่อยครั้งเท่าที่ต้องการโดยปรึกษาแพทย์ก่อน

              ผลลัพท์ที่ได้ คือ

1. ผลที่เกิดขึ้นทันทีหลังการรักษา ซึ่งเป็นผลมาจากการหดตัวของคอลลาเจนในชั้นหนังแท้

2. เกิดการซ่อมแซม และสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้น

3. กระตุ้นและขับของเสียออกไป เร่งให้เกิดการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ขจัดไขมัน และเซลลูไลต์

4. ริ้วรอยลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด ลดความหย่อนคล้อย ผิวหนังกระชับขึ้น

5. ในคนไข้บางรายพบว่ามีน้ำหนักลดลงด้วย

6. ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายสบายตัว

จะพบว่าหลังจากที่ทำการรักษาแม้เพียงครั้งแรก คุณจะรู้สึกถึงผิวกระชับขึ้น และสัดส่วนบริเวณที่รักษานั้นจะลดลง โดยการลดลงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังและชั้นไขมัน รวมทั้งอายุของผู้ทำการรักษาในแต่ละรายด้วย

              ข้อปฏิบัติหลังทำการรักษา

1. หลังทำการรักษาภายใน 24 ชั่วโมง ต้องดื่มน้ำเปล่า เฉลี่ย 3 – 4 ลิตร เพื่อให้ของเสียที่คั่งค้างสะสมอยู่ในร่างกายถูกกำจัดออกให้เร็วที่สุดและในวันถัดไปให้ดื่มน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตร ถ้าดื่มน้ำน้อยขบวนการขับของเสียออกจากร่างกายจะไม่ดี ของเสียและไขมันจะยังคงสะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ไม่เห็นผลในการรักษา

2. ควรควบคุมอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน

3. ควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

4. เพื่อเสริมให้เห็นผลการรักษาเร็วยิ่งขึ้นควรรักษาควบคู่ไปกับการทำทรีทเม้นท์อื่นๆ ด้วย

นวัตกรรม 4-Polar Radio Frequency มีความปลอดภัยสูง เพราะ ความร้อนที่เกิดขึ้นจะไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง คุณสามารถรับการรักษาได้ทุกวัน ขณะทำคุณจะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย